8 สมุนไพรไทย ช่วยดูแลสุขภาพใน ฤดูหนาว
8 สมุนไพรไทย ช่วยดูแลสุขภาพใน ฤดูหนาว
ฤดูหนาว ใกล้จะมาถึงแล้ว หลายๆคนที่ชื่นชอบฤดูกาลนี้เพราะว่าอากาศไม่ร้อนและเย็นสบาย แต่บางคนที่ขี้หนาวก็ไม่ชอบอากาศเย็นๆเช่นกัน วันนี้เรามีวิธีเตรียมตัวก่อนเข้าหน้าหนาวง่ายๆมาฝากกันค่ะ โดยการใช้สมุนไพรไทยของเรานี่เอง สามารถช่วยแก้หนาว และช่วยปรับสมดุลของธาตุต่างๆในร่างกายของเราได้อีกด้วย ไปดูกันดีกว่าค่ะ
ตามหลักทฤษฏีการแพทย์แผนไทยกล่าวไว้ว่า ร่างกายของคนเรามีธาตุเป็นองค์ประกอบด้วยกันทั้งหมด 8 ธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอาการเจ็บป่วยของคนเรา มักจะขึ้นอยู่กับการเสียสมดุลของธาตุนั้น ๆ ส่วนใหญ่การเจ็บป่วยใน ฤดูหนาว มักจะเกี่ยวกับธาตุน้ำในร่างกายที่เกิดการเสียสมดุลร่างกายจะเกิดอาการที่พบบ่อย คือ อาการเจ็บคอ แสบคอ มีเสมหะ อาการดังกล่าวเกิดจากกลุ่มอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ คนไทยเราจึงมีวิธีการดูแลสุขภาพในหน้าหนาวด้วยการปรับใช้โดยการนำเอาสมุนไพรเพื่อป้องการการแก้หนาวเพราะเป็นสมุนไพรที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด หรือบางบ้านก็มีปลูกไว้ในบ้านของตนเอง การปรับสมดุลของธาตุน้ำ มีดังต่อไปนี้
1. พริก (chilli) พริกมีสารแคพไซซิน (capsaicin) จะทำให้ช่วยในการไหลเวียนของเลือดในร่างกายของเรา และช่วยในการที่จะทำให้เกิดความเย็นบริเวณปลายนิ้วมือ และ นิ้วเท้าลดลง

2. กระเทียม (gralic) จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะบริเวณผิวหนัง สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน หรือ ทานสด ๆ ได้ทันที
3. ขิง (singer) ซึ่งมีสารจิงเกอรอล (gingerol) ซึ่งจะช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในร่างกาย และช่วยทำให้หลอดเลือดไม่แข็งตัว หรือจับเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย
4. ข่า (galangal) จะมีประโยชน์ในการบำรุงธาตุไฟ และช่วยย่อยอาหารแถมยังช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยลดเสมหะ บำรุงร่างกายและยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เป็นสมุนไพรต้านมะเร็งอีกด้วย

5. กระชาย (finger root) เป็นพืชที่มีรสร้อน ซึ่งมีวิตามินเอ บี12 และยังมีแคลเซียม ช่วยระบบการย่อยอาหาร และจุก เสียดในกระเพาะอาหารอีกด้วย
6. กระเพรา (basil) ใบสดมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย linalool methyl chavicol สรรพคุณ เป็นยาขับลม ช่วยลดอาการจุกเสียด ยิ่งถ้านำใบสดมาคั้นให้เป็นน้ำช่วยในการขับเสมหะ ขับเหงื่อ แต่ถ้าหากมีแผลหรือเป็นโรคผิวหนัง นำน้ำกระเพราที่คั้นแล้วมาทาบริเวณผิวหนังซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ในบางชนิด นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันยุงได้นาน 2 ชั่วโมง
7. โหระพา (sweet basil) เลือกใช้แต่ใบคั้นเอาน้ำประมาณ 1 ถ้วย มาผสมกับน้ำผึ้ง จิบแก้ไอ จะช่วยลดอาการหลอดลมอักเสบ และยังสามารถช่วยในการขับเหงื่อได้ดีอีกด้วย

8. สะเดา (neem) มีคุณค่าทางอาหารได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรตแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามิบี1และ2วิตามินซี และไนอาซีน ประโยชน์ของสะเดา มีสรรพคุณบำรุงธาตุไฟ สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย และแก้ไข ช่วยให้ถ่ายอุจจาระละเอียด ขับถ่ายคล่อง และช่วยให้นอนหลับสบาย ส่วนใหญ่จะนิยมนำดอกและใบนำมารับประทาน
นอกจากเรื่องการปรับสมดุลของธาตุในร่างกายแล้ว ใน ฤดูหนาว ยังมีปัญหาเรื่องผิวหนังแห้ง ถือเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญแก่ทุกคนได้หากไม่ดูแลรักษาเพราะเมื่อผิวหนังแห้งจะทำให้รู้สึกคัน รำคาญ บางคนจะรู้สึกแสบร้อนมักเกาบริเวณผิวหนังที่คันจนเกิดแผลอักเสบเลือดออก และมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเกิดอาการอักเสบ ซึ่งหากมีผิวแห้ง มีข้อแนะนำให้นำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ทางจะช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นได้นาน หากใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาจะช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ป้องกันมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดได้
ประโยชน์ทั้งหลายของพืชและสมุนไพรที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะ ฤดูหนาว เพียงเท่านั้นทุกคนสามารถนำมาปรุงอาหารได้แทบทุกฤดู และอีกอย่างที่ทุกคนควรสนใจและใส่ใจที่จะทำร่วมไปด้วยคือการได้ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพจะได้แข็งแรงอีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก : www.สุขภาพไทย.com
8 สมุนไพรไทย ช่วยดูแลสุขภาพใน ฤดูหนาว
Reviewed by Unknown
on
11:49
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: