ไทยเครียดประจำวันสูง ควรมีสติกับตัว

แฟ้มภาพ

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยเรื่องความตึงเครียด ในชีวิตประจำวัน ครองแชมป์สายด่วนสุขภาพจิต อันดับ 1 ชี้จัดการตนเองกับสิ่งแวดล้อมไม่ได้ เป็นตัวกระตุ้นให้อารมณ์ฉุนเฉียว แนะให้มีสติอยู่กับตัว

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ถึงพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวอารมณ์ฉุนเฉียวว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการจัดการตนเอง กับสิ่งแวดล้อมไม่ได้ เพราะจะถูกสถานการณ์แวดล้อมเป็นตัวกดดัน เช่น รถติด เรารีบร้อนต้องไปในเวลาที่จำกัด เขาเรียกว่าตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน คนเราอาจจะมีวิธีตอบโต้ต่อสถานการณ์ต่างกันออกไป หรือยิ่งถูกเร้าขึ้น เช่นคนที่ขับรถอยู่บนท้องถนน อาจจะขับไม่ดี แสดงปฏิกริยาบางอย่าง อันนี้ทำให้ตัวปัจจัยเร่งเพิ่มขึ้น ก็ต้องกลับมาดูว่า เราจัดการอารมณ์อย่างไร เมื่ออยู่ในภาวะที่กดดัน เป็นภาวะอารมณ์ของเราเอง สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยตัวกระตุ้นที่เราควบคุมไม่ได้

เมื่อถามว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องปกติของคนหรือไม่ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องปกติ แต่คนเราแต่ละคนมีจุดเดือดไม่เท่ากัน เมื่อมีอารมณ์เดือดก็จะมีทางออกไม่เหมือนกัน ก็หวังว่าพวกเราจะเรียนรู้เรื่องจุดเดือดของตัวเอง และรู้ว่าเมื่อถึงจุดเดือดแล้ว มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลาย วิธีแนะนำทางการแพทย์ก็คือ เวลาที่เราจะทำอะไร ต้องมีสติอยู่กับตัวเรา ถ้าใจไปวอกแวกอยู่ที่ตัวกระตุ้น หรือสิ่งเร้าอารมณ์ จะเสียมากขึ้น และต้องระวังอย่าให้เราถึงจุดเดือด จะคุมอารมณ์ไม่อยู่จะหลุด เมื่ออารมณ์หลุด ทำอะไรไปก็ไม่รู้แล้ว แต่เมื่อเราทำอะไรก็ต้องรับผลจากการกระทำของเรา

“เวลาขับรถก็จะมีความตึงเครียด เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงต้องขับรถอย่างระมัดระวัง และถ้าไปโดนสถานการณ์เร้า ก็จะเกิดความเครียดมากขึ้น แต่ทั้งนี้ การขับรถแล้วได้พูด หรือระบายในรถ ก็อาจจะเป็นวิธีการช่วยวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตามบุคลิกที่เกิดขึ้น ต้องเรียนรู้จากสังคมด้วย เพราะบางอย่างสังคมไม่ยอมรับในพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เมื่อเกิดความตึงเครียด ก็ต้องหาวิธีในการที่จะช่วยให้เราผ่อนคลายลงหรือ ถ้ารู้ว่าอารมณ์ไม่ดีเรายิ่งต้องขับรถให้ช้าลง จะได้ควบคุมได้ง่ายขึ้น” พญ.พิมลพรรณ กล่าว

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากที่ผ่านมา มีคนโทรเข้ามายังสายด่วนสุขภาพจิต เรื่องของความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน จะมาเป็นอันดับ1 รองลงมาเรื่องของความขัดแย้งกับคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนรักกัน หรือคนในครอบครัว ที่ไม่เข้าใจกัน ทางแพทย์ได้ให้คำแนะนำว่า เราต้องอยู่กันด้วยความรักความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้าเราใช้วิธีตอบโต้ ยิ่งจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นหรือ เห็นคนอารมณ์ร้อนเรา จะต้องถอยหรือหยุดการโต้ตอบ เพราะถ้าไม่มีใครหยุด จะยิ่งเกิดการปะทะ ซึ่งการหยุดของเรา เพื่อประโยชน์ของตัวเราเองไม่ได้สนับสนุนคนที่กำลังมีอารมณ์ แต่เราต้องถอยออกจากคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้ว

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์