ภัยร้ายใกล้ตัว!! ทานอาหารที่ "แมลงวัน" ตอมไปแล้ว อาจเสี่ยงติดโรคร้ายแรง ..
ภัยร้ายใกล้ตัว!! ทานอาหารที่ "แมลงวัน" ตอมไปแล้ว อาจเสี่ยงติดโรคร้ายแรง ..มาดูคำตอบชัดๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ? พร้อมสาเหตุที่ทำไมพวกมันต้องมาตอมอาหารของเรา?
"แมลงวัน" จัดเป็นแมลงศัตรูสำคัญอีกชนิดหนึ่งของมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ที่นอกจากมันจะก่อความรำคาญแล้วพวกมันยังเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดที่ติดต่อสู่คน สิ่งหนึ่งที่มันชอบกวนใจมนุษย์ไม่น้อยคือพวกมันมักจะมาไต่ตอมอาหารที่เรารับประทาน ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคที่จะตามมาหลังมนุษย์รับประทานอาหารนั้นเข้าไป แล้วคุณเคยรู้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวคุณ หากคุณทานอาหารที่มี "แมลงวัน" ตอมไปแล้ว? วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
คุณเคยสงสัยกันมั้ยว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้แมลงวันนั้นมาเกาะอยู่บนอาหารของคุณกัน? มันได้รับการยืนยันแล้วว่า แมลงวันส่วนใหญ่นั้นจะทำการเคลื่อนย้ายแบคทีเรีย และมันจะทำอย่างนั้นเสมอๆ ซึ่งเราสามารถมองเห็นได้จากในบ้านของเราเอง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวถึงผลที่ตามมาว่า :
แมลงวันจะกินบางสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่เรานั้นจะจินตนาการได้ อาทิ อุจจาระ , ขยะ หรือแม้กระทั่งซากศพสัตว์ต่างๆ พวกมันไม่สามารถเคี้ยวได้ ดังนั้นเพื่อที่พวกมันจะสามารถทานอาหารนั้นได้ พวกมันจะคายเอนไซม์ลงในอาหารของพวกมัน ซึ่งมันจะทำให้เกิดการสลายตัว และทำให้พวกมันนั้นสามารถ "ดื่ม" อาหารนั้นเข้าไปได้
แมลงวันจะกินบางสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่เรานั้นจะจินตนาการได้ อาทิ อุจจาระ , ขยะ หรือแม้กระทั่งซากศพสัตว์ต่างๆ พวกมันไม่สามารถเคี้ยวได้ ดังนั้นเพื่อที่พวกมันจะสามารถทานอาหารนั้นได้ พวกมันจะคายเอนไซม์ลงในอาหารของพวกมัน ซึ่งมันจะทำให้เกิดการสลายตัว และทำให้พวกมันนั้นสามารถ "ดื่ม" อาหารนั้นเข้าไปได้
มีเชื้อแบคทีเรียและไวรัสจำนวนมากติดอยู่ตามร่างกายของมัน มันเป็นตัวที่ทำการโอนถ่ายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี และทำให้ผู้คนสามารถป่วยได้หลังจากนั้น
แมลงวันจำเป็นจะต้องสัมผัสกับอาหารของคุณในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ดังนั้นแบคทีเรียจากแมลงวันก็สามารถโอนถ่ายไปยังอาหารของคุณได้เช่นกัน
แมลงวันเป็นพาหะของโรคติดต่อที่ร้ายแรง เช่น เหา ,อาหิวาตกโรค,โรคบิด,และไข้รากสาด ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่คุณนั้นไม่ทานอาหารที่มีแมลงวันตอมเข้าไปในร่างกายของคุณ
Credit Clip : DNews
ภัยร้ายใกล้ตัว!! ทานอาหารที่ "แมลงวัน" ตอมไปแล้ว อาจเสี่ยงติดโรคร้ายแรง ..
Reviewed by Unknown
on
13:22
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: