Top Ad unit 728 × 90

HOT NEWS

random
.

สวยแบบมีกล้าม กับประสบการณ์ฟิตหุ่นเป๊ะของ 5 สาวคนดัง


  ออกกำลังกายสร้างกล้ามผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด จะทำตามประสบการณ์ของ 5 คนดังนี้ดูก็ได้ เพื่อลอนกล้ามสวย ๆ จะอยู่คู่คุณสาว ๆ ชาวสตรอง !

          หมดสมัยสาวหุ่นผอมบางราวกับไม้แขวนเสื้อไปแล้ว เพราะยุคนี้คุณผู้หญิงคนไหน ๆ เขาก็ออกกำลังกายกัน เพื่อสร้างมัดกล้ามในรูปร่างเพรียวกระชับแบบนักกีฬาและหน้าท้องที่แบนราบ ดูฟิตเฟิร์มแถมสุขภาพดี แต่การสร้างมัดกล้ามสำหรับผู้หญิงนี่จะยากหรือง่ายแค่ไหน นิตยสารชีวจิต หยิบเอาประสบการณ์การออกกำลังกายของ 5 สาวคนดังหุ่นเป๊ะมาบอกต่อกัน แล้วจะรู้ว่ารูปร่างที่คุณ ๆ ปรารถนานั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม 







ภาพจาก Instagram Jlo

ฟิตอย่างเซ็กซี่แบบเจโล

          แม้ล่วงเข้าสู่วัย 46 ปี แต่เจนนิเฟอร์ โลเปซ ยังคงรักษารูปร่างได้งดงามติดอันดับต้น ๆ ของเซเลบสาวหุ่นเป๊ะ แม้ในงานพรมแดงที่เธอไม่ได้ไปปรากฏกายอย่าง MTV Music Awands ปีนี้ นิตยสาร People ยังจัดคอลัมน์พิเศษที่เก็บภาพดารานักร้องสาวรุ่นถัดมาที่แต่งกายและมีรูปร่างเซ็กซี่แบบนาฬิกาทรายเช่นเธอ ในชื่อ "Everyohe Was J.Lo-ing on the Red Carpet" หรือ "บนพรมแดง ใคร ๆ ก็ดูเหมือนเจโล"

          แม้แต่ คิม คาร์ดาเขียน ดาราสาวหุ่นสะบึมที่มียอดผู้ติดตามในเทวิตเตอร์สูงถึง 34.9 ล้านคน ยังประกาศยกให้เจโลเป็นสุดยอดแรงบันดาลใจในการดูแลรูปร่างสำหรับเธอไปตลอดกาล ซึ่งเจโลได้ให้สัมภาษณ์ถึงการสร้างรูปร่างแบบนาฬิกาทราย อกกระชับ ส่วนเอวที่เว้าคอด ขณะเดียวกันก็มีเส้นสายของแนวกล้ามเนื้อที่สวยงามแกนิตยสาร Eile ว่า

          "ในการออกกำลังกายแต่ละเซต ฉันพยายามทำให้ครบ 10-15 ครั้งใน 1 นาที หมายความว่าคุณต้องออกแรงอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็ว โดยให้ความสำคัญกับการบริหารไหล่ หน้าท้อง และต้นขาเป็นพิเศษ"


          ท่าออกกำลังกายที่แนะนำคือ ท่าวิดพื้น โดยวางเข่าและงอขาให้ปลายเท้าลอยไว้ ท่ายกขาและพับตัวเอาศอกแตะเข่า ท่าแพลงก์แบบงอแขนสลับข้างซ้าย-ขวา และท่าสควอชพร้อมเวทหนักอย่างน้อย 3 กิโลกรัมไปพร้อม ๆ กัน ทุกท่าทำเซตละ 10-15 ครั้ง ทำ 1 ท่าต่อ 1 เซตไล่ไปจนครบ 5 ท่า นอกจากนี้เธอยังโปรดปรานการฝึกพิลาทีส เต้นรำ และใช้เวลาออกกำลังกายไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมง

          ส่วนเรื่องอาหารนั้น เธอเริ่มต้นมื้อเช้าด้วย การดื่มสมูธตี้ที่ทำจากผลเบอร์รีตามฤดูกาล ผสมกรีกโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว เพื่อแต่งรสเล็กน้อย มื้อกลางวันเป็นสลัดเคลนึ่ง โรยเมล็ดทานตะวัน มีแอปเปิลสด 1 ผลเป็นของหวาน ส่วนมื้อเย็นมีกะหล่ำ เผือก และเนื้อปลาอบปิดท้ายวัน เครื่องดื่มแก้วโปรดของเธอคือน้ำเปล่า



Instagram beyonce


ต้นขากระชับแบบบียอนซ์

          เมื่อไม่นานมานี้ ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย มีการก่อสร้างตึกสูง 78 ชั้นชื่อ The Premier Tower ในเขต Queen Bey ตึกนี้ มีทรวดทรงคอดเว้าและได้รับแรงบันดาลใจจากรูปร่างเปี่ยมเสน่ห์ของนักร้องสาว บียอนเซ่ วัย 33 ปี ซึ่งมักปรากฏกายในชุดโชว์เรียวขาแน่นเฟิร์ม และมิวสิควิดีโอที่มีท่าเต้นสุดร้อนแรง

          ล่าสุดเธอได้โพสต์เซตการออกกำลังกายด้วยการยกเวทตามคำชวนของ มิเชลล์ โอบามา เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพทั้งการออกกำลังกายและการกิน โดยติดแฮชแท็ก #GimmeFive ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นต้นแบบให้กับชาวอเมริกันได้เป็นอย่างดี
          เธอกล่าวว่า การเป็นนักร้องแนวป๊อปแดนซ์ต้องสร้างกำลังขาและปอด อีกทั้งบริหารข้อต่อให้ยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้ต้นรำและร้องเพลงได้อย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายของเธอ จึงเน้นการใช้ข้อศอก เข่า สะโพก และไหล่ มากเป็นพิเศษ

          เริ่มจากการวิ่งบนสายพานเพื่ออบอุ่นร่างกายราว 5-10 นาที จากนั้นฝึกยกเวท โดยใช้อุปกรณ์บริหารเฉพาะส่วน ไล่จากกล้ามเนื้อขาและต้นขา หลังส่วนล่าง ไหล่ สะบัก แขน และปิดท้ายด้วยการทำท่าออกกำลังกายเพื่อกระชับต้นขาโดยเฉพาะ เช่น ท่าสควอช ท่าแพลงก์ นอกจากนี้ก็มีท่ากระโดดและท่าเตะที่ต้องทำอย่างน้อย 10-15 ครั้งต่อ 1 เซต เป็นหัวใจสำคัญในการมีต้นขาแข็งแรงและฟิตเปรี๊ยะพร้อมสำหรับทุกคอนเสิร์ต

          เรื่องอาหาร ปัจจุบันเธอกินอาหารมังสวิรัติ และให้สัมภาษณ์ว่า ชอบกินผักใบเขียวมาก เมนูโปรดจึงไดแก่ สลัดผักใบเขียวตามฤดูกาล แอปเปิลเขียว แตงกวา ราดด้วยน้ำสลัดจากน้ำส้มที่หมักจากองุ่น ถั่วขาวอบปรุงรสกินกับซอสสมุนไพรและโรสแมรี่ มื้อเที่ยงดื่มโปรตีนเชคซึ่งทำจากพืชล้วน ๆ และปิดท้ายด้วยสลัดมะเขือยาวแบบเมดิเตอร์เรเนียนหรือผลไม้สดตามฤดูกาล


          เธอย้ำว่า ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงและเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ได้ หากมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งการกิน นอน พักผ่อน และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เธอมีเคล็ดลับว่า ขอให้ลองทำติดต่อกัน 22 วัน หากทำสำเร็จก็จะสามารถทำได้ตลอดไป น้อยมากที่จะล้มเหลว ขอเพียงชนะกำแพง 22 วันไปได้ก็สบายแล้ว





Instagram gisele 


จิเซล บุนเชน ซูเปอร์โมเดลแห่งยุค

          นางแบบระดับซูเปอร์โมเดลวัย 35 ปีที่มักมีคนพบเห็นเธอในชุดออกกำลังกายเสมอคนนี้ ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูกสองและเป็นทูตด้านสิ่งแวดล้อมขององค์การสหประชาชาติ ผลงานการเดินแบบที่ผ่านมาของเธอทำให้ได้รับการโหวตจากนิตยสารชั้นนำอย่าง Men’s Health GQ และ Vanity Fair ให้ติดอันดับผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก กระทั่ง แอนนา วินทัวร์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Vogue ผู้มีฝีปากกล้ายังให้การยอมรับและขนานนามว่าเธอเป็นสุดยอดนางแบบยุคมิลเลเนียม

          แม้จะมีรูปร่างค่อนข้างผอมบาง แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นกล้ามเนื้อไปทุกสัดส่วน จิเซลขึ้นเชื่อเรื่องเป็นผู้มีวินัยในการออกกำลังกายสูงมาก ตั้งแต่เช้าครู่จิเซลจะออกไปจ๊อกกิ้งรอบ ๆ ที่พักเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ก่อนไปทำกิจกรรมอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนบ้านของเธอพบเห็นได้เสมอ นอกจากนี้เธอยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตนี้ขอยอมงดออกกำลังกายไปเพียง 2 สัปดาห์เพื่อพักฟื้นหลังการคลอดเท่านั้น


          หากให้เลือกกีฬาโปรด เธอมักจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าคือโยคะและกังฟู สัปดาห์ละ 2 วัน แม้จะมีการเคลื่อนไหวไม่เร็วเท่าการเต้นหรือใช้กำลังหนัก ๆ อย่างการยกเวท แต่กีฬาทั้งสองนี้ล้วนต้องอาศัยความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว โดยเฉพาะช่วงท้อง เพื่อยกน้ำหนักตัวเองขึ้นและเกร็งค้างท่าไว้ เธออธิบายว่า ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกระชับเป็นวิธีที่ช่วยสร้างสมาธิได้ดีมากเช่นกัน

          นอกจากนี้เธอยังฝึกพิลาทีสสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อกระชับสัดส่วนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อทั่วร่างกาย ส่วนการสร้างกล้ามเนื้อหลัก ๆ นั้นเธอใช้วิธียกเวทสัปดาห์ละ 3 วัน ร่วมกับการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอสัปดาห์ละ 4-5 วัน วันละ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ

          หากรู้สึกเบื่อ จิเซลจะปลี่ยนไปฝึกกีฬาทางน้ำ เช่น โปโลน้ำ หรือว่ายน้ำ สลับกับตารางออกกำลังกายข้างต้นที่ทำเป็นมาตรฐานทุกสัปดาห์ ส่วนวิธีช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจนั้น เธอมักใช้เวลาช่วงเช้าตรู่ออกวิ่งไปตามเส้นทางใกล้ ๆ ที่พักอย่างน้อยวันละ 45 นาที

          อาหารสำหรับรูปร่างเพรียวและสมส่วนของเธอ ได้แก่ มื้อเช้าเป็นขนมปัง ผลไม้สด และน้ำมะพร้าว มื้อกลางวันเป็นข้าว ผักใบเขียว เนื้อสัตว์เล็กน้อย ส่วนมื้อเย็นเป็นปลาย่าง กินคู่กับสลัดผักสด เน้นมะเขือเทศ เนื่องจากเธอชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยมีผลไม้สดเป็นของหวานหลังมื้ออาหารและเป็นของร่างกายระหว่างวัน




Instagram meiji_27anorma


สูตรฟิตกล้ามสไตล์เมจิ-อโณมา

          ในเมืองไทย ถ้าเอ่ยถึงผู้นำเทรนด์การสร้างกล้ามให้สวยสำหรับสาว ๆ ผู้รักสุขภาพคงไม่มีใครไม่รู้ คุณเมจิ-อโณมา ศรัณย์ศิขริน ซึงนำประสบการณ์ในการออกกำลังกายและการกินอาหารมาเผยแพร่ผ่านอินสตาแกรมแบบหมดเปลือก ซึ่งเจ้าตัวอธิบายถึงการปฏิวัติรูปร่างของตนเองในครั้งนี้ว่า

          "การฝึกร่างกายต้องเริ่มฝึกที่จิตใจด้วยค่ะ เมจิเชื่อว่า ถ้าพฤติกรรมเราเปลี่ยนร่างกายถึงจะเปลี่ยนค่ะ ดังนั้นต้องอดทน ใจเย็น หาความรู้ และลงมือทำอย่างต่อเนื่องจุดเริ่มต้นคือ ช่วงหลังแต่งงาน เมจิน้ำหนักขึ้นไปเกือบ 60 กิโลกรัม เนื่องจากอายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญจึงทำงนลดลง แต่ก่อนเมจิเคยใส่ชุดไซส์ S ได้ แต่ตอนนั้นกระโดดไปใส่ไซส์ L เมื่อกลับไปมีหุ่นไซส์เดิม จึงพยายามลดน้ำหนัก อะไรที่เขาทำ เพื่อลดน้ำหนัก เมจิทำมาหมดแล้ว ลองผิดลองถูกมาหมดค่ะ เช่น การอดอาหาร พอเราหิวมากก็กลับมากัน น้ำหนักก็ขึ้นอีก"

          เธอเล่าว่า ต่อมาทดลองออกกำลังกาย แต่ก็ทำหนักมาก เช้า 2 ชั่วโมงและเย็น 2 ช่วโมง แต่ก็ยังไม่ได้น้ำหนักและรูปร่างตามเป้าหมาย ปัจจุบันจึงปรับมาเป็นวงจรที่ลงตัวกับตารางการทำงานที่สุด

          "เมจิมีตารางออกกำลังกายประจำสัปดาห์ค่ะ วันจันทร์เน้นช่วงล่างของลำตัว ตั้งแต่เอว สะโพก ขา 40-60 นาที ต่อด้วยคาร์ดิโอ เช่น ปั่นจักรยานหรือเดินสายพานอีก 40-60 นาที เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ วันอังคารเน้นช่วงบนลำตัว แขน ไหล่ หลัง 40-60 นาที ต่อด้วยคาร์ดิโอในเวลาเท่า ๆ กัน วันพุธเน้นเฉพาะหน้าท้องและแกนกลาง 40-60 นาที ต่อด้วยคาร์ดิโอเช่นกัน พฤหัสบดีเล่นเหมือนวันจันทร์ ศุกร์เล่นเหมือนอังคาร เมจิจะไม่เล่นทุกส่วนในวันเดียวกัน เพราะต้องการให้กล้ามเนื้อได้พัก"

          "ส่วนเสาร์-อาทิตย์เป็นวันพักผ่อน เพราะการออกกำลังกายคือการทำลายกล้ามเนื้อค่ะ ดังนั้นเมื่อหยุดพักจึงต้องกินโปรตีนให้พอทุกวัน เพื่อให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้เต็มที่อในวันอื่น ๆ ก็ต้องนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เมจิเข้านอน 3-4 ทุ่ม ตื่นตี 5 มาวิ่งตอนเช้า เพราะชอบดูพระอาทิตย์และชอบบรรยากาศตอนเช้า ไม่ต้องทำแบบเมจินะคะ ให้หาเวลาที่สะดวกออกกำลังกายแล้วมีความสุข แบบนั้นจะดีกว่า"

          ส่วนเรื่องอาหารนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเธออธิบายว่า "ช่วงแรกที่เมจิออกกำลงกาย เราก็ออกหนักมาก หรืออย่างออกไปวิ่งก็วิ่ง ๆ จนขาล้าไปหมด เลยสงสัยว่า ถ้าเขาอยากหุ่นดี ไม่ต้องวิ่งทั้งวันเลยหรือ (หัวเราะ) จากความสงสัยตรงนั้น พอเรามีโอกาสไปต่างประเทศ เห็นนักกีฬา นักเพาะกายที่มีรูปร่างสวยมีกล้าม ตามฟิตเนสต่าง ๆ เมจิพบว่า เขาไม่ได้กินน้อยอย่างที่เราคิดเลยนะคะ ทำให้สนใจเรื่องการปรับอาหารให้ถูกต้องตั้งแต่นั้นมา"

          "แต่ก่อนเมจิกินแป้ง น้ำหวาน ไอศกรีม ไขมัน ครีมชีส เราก็ต้องลดลง แต่ก่อนกันโปรตีนน้อยด้วยค่ะ พอออกกำลังกาย น้ำหนักก็ลดลงเหลือ 50 กิโลกรัม คราวนี้ตัวแบนเลยค่ะ ไม่มีทรวดทรงองค์เอว นี่แสดงว่าการสร้างกล้ามเนื้อนั้นยากกว่าการลดน้ำหนักอีก เพราะต้องกินโปรตีนให้พอและออกกำลังกายให้ถูกต้อง"

          เรื่องอาหาร เธอชี้แจงว่า ต้องเลือกกินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้เป็น เรียกว่าวิธีกินคาร์บล่วงหน้า เช่น กินข้าวกล้อง 1 กำมือ เวลาย่อย 40-60 นาที แล้วออกไปเล่นเวท เช่น ถ้าต้องไปฟิตเนส 9 โมง ต้องกินข้าว 8 โมง และต้องเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวซ้อมมือเผือก มันที่มีสีต่าง ๆ เพราะต้องใช้เวลาเผาผลาญให้เป็นน้ำตาลอย่างช้า ๆ ร่างกายจึงดูดซึมได้ทัน และรู้สึกอิ่มนาน ไม่กินข้าวขาว แป้งขาว หรืออาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เท่านี้ก็ช่วยให้การสร้างกล้ามเนื้อเป็นตามเป้าหมายได้แล้ว"



 เลิกย้วยกลับมาฟิตเกินร้อย

          คุณรัชนี ลาภพูนผลดี อายุ 47 ปี หรือพี่น้อง ของสาว ๆ แห่งเว็บบอร์ดพันทิป เป็นหนึ่งในบุคคลสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเธอเปิดเผยว่า เพิ่งมาออกกำลังกายอย่างจริงจังเมื่ออายุ 45 ปี ใช้เวลาเพียง 6 เดือนก็มีรูปร่างพิตสมใจแล้ว

          "มีคนถามว่า ตอนสาว ๆ เป็นนักกีฬาหรือเปล่า ยืนยันว่าไม่ใช่เลยค่ะ (หัวเราะ) เรื่องกีฬาเคยลงแข่งกีฬาสีตอน ป.4 เท่านั้นละค่ะ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ลดน้ำหนักก็ใช้วิธีลดแป้ง งดกินแป้งโดยเฉพาะมื้อเย็น แต่ก็ไม่สำเร็จ หันไปใช้ยาลดความอ้วนก็ไม่ดีขึ้น พอได้ติดตามกระทู้ของคุณปุ้ย Love Is A Verb ในพันทิป จึงมีกำลังใจในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเองค่ะ"

          "ตอนแรกหนัก 68 กิโลกรัม พอออกกำลังกายก็เน้นยกเวทหนักมาก แต่น้ำหนักกลับไม่ลดลงเท่าไร เลยกำหนดไว้ในใจว่า เราต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ต้องมุ่งไปทางนั้นก่อน พอได้กล้ามเนื้อเท่าที่ต้องการแล้ว ค่อยลดน้ำหนักลงถ้าไปเน้นลดน้ำหนักมาก ๆ ไม่รักษาสมดุลด้วยการออกกำลังกาย จะทำให้มวลกล้ามเนื้อหายไปด้วยค่ะ ตอนแรกหนัก 68 กิโลกรัม ไขมันร้อยละ 35  มีไขมันประมาณ 22.75 กิโลกรัม มาตอนนี้หนัก 57 กิโลกรัม แต่เอวเหลือ 25 นิ้ว ไขมันร้อยละ 25 มีไขมันประมาณ 14.25 กิโลกรัม แสดงว่าน้ำหนักที่หายไปส่วนใหญ่เป็นไขมันเกือบทั้งหมด"

          คุณรัชนี อธิบายว่า เดือนแรกเธอเล่นเวททุกส่วน ขา อก แขน หน้าท้อง และสะโพก ช่วงเย็นวันละ 40-50 นาที สรุป ออกกำลังกายทั้งวันรวม 1 กิโลกรัม (วันแรก ๆ ใช้ขวดน้ำขวดเล็ก) ส่วนอาหารก็ทาน 3 มื้อตามปกติ แต่เลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน เดือนที่สอง ออกกำลังกายโดยเน้นคาร์ดิโอช่วงเช้า 30-40 นาที (เต้นตามคลิปและปั่นจักรายาน) ช่วงเย็นเล่นเวท 50-60 นาที สรุปออกกำลังกายทั้งวันรวม 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนอาหารยังเลี่ยงของทอด ของมัน และของหวานเช่นเคย มีวันหยุดพักคือทุกวันพฤหัสบดีกับวันอาทิตย์

          เรื่องการพักผ่อนก็สำคัญ โดยคุณรัชนี ย้ำว่า ต้องนอนให้พอด้วย เพื่อให้โกรทฮอร์โมนหลั่งตอนที่หลับสนิท ควรนอนให้ครบ 6 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งเธออธิบายว่า ตัวเธอเองนอน 3 ทุ่มครึ่งตลอด แม้ละครโทรทัศน์จะดังเปรี้ยงปร้างแค่ไหนก็ไม่ดู ตื่นมาช่วงเช้าตรู่ประมาณตี 5 เศษ ๆ ก็ลุกขึ้นมาเต้นแอโรบิกก่อนไปทำกิจวัตรประจำวัน จากนั้นช่วงเย็นค่อยมาเล่นเวตตามตารางปกติ

          "สำคัญที่สุดคือ วินัยในการออกกำลังกาย ใครทำได้ก็เห็นผลไวค่ะ ตอนนั้นเราทำทุกวันเป๊ะ ๆ ไปเที่ยวที่ไหนก็เอาคลิปไปเปิดเต้นค่ะ ต้องบริหารเวลาให้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับหักโหม ออกกำลังกาย 5 วัน หยุด 2 วัน รักษาสมดุล ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองรูปร่างสวยพร้อมกล้ามเนื้อฟิต แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ถ้าออกกำลังกายให้ถูก กินให้เป็น พักผ่อนเพียงพอ รูปร่างเฟิร์มขึ้น มีกล้ามเนื้อ หรือจะทำให้รูปร่างดีกว่าเดิมก็ยังได้ ขอให้ใส่ใจเรื่องโภชนาการให้ถูกทางค่ะ”

ต่อมาคือเรื่องอาหาร คุณรัชนีย้ำว่า หากต้องการสร้างกล้ามเนื้อ จะมองข้ามเรื่องนี้ไม่ได้

          "ปกติคนทั่วไปกินโปรตีนไม่พอหรอกค่ะ แต่เราไม่ค่อยทราบกัน คิดง่าย ๆ กินโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม รู้แบบนี้แล้วลองเช็กตัวเองดูนะคะ ดังนั้นเรื่องอาหารต้องกินให้สมดุล ใน 1 มื้อต้องครบ 5 หมู่ ใน 1 จาน ร้อยละ 50 เป็นผัก มีข้าวร้อยละ 30 มีโปรตีนร้อยละ 20 โปรตีนต้องเลือกชนิดปราศจากไขมันหรือมีไขมันแต่น้อยไฟเบอร์ด้วยนะคะ ส่วนการนับแคลอรี ขอเตือนว่า ควรใช้ให้ถูก คือรู้หลักไว้ก็ดี แต่ไม่อยากให้ไปมุ่งนับแต่แคลอรี อยากให้ใส่ใจการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด สด แบบนั้นจะดีต่อการสร้างสุขภาพในระยะยาวได้มากกว่าค่ะ"

สุดท้ายเธอฝากข้อคิดเพื่อให้กำลังใจนักสร้างกล้ามมือใหม่ทุกท่านว่า

          "ตัวเองนั้นตอนอายุ 45 ปี เดินแค่ 200 เมตรยังบ่นว่าเหนื่อย ปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีก ตอนนี้เดิน 2 กิโลเมตรยังเฉย ๆ ค่ะ (ยิ้ม) ไม่ว่าจุดเริ่มต้นในการออกกำลังกายของแต่ละคนคืออะไร แต่ปลายทางนั้นเราทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรงซึ่งรับรู้ได้ด้วยตนเองมีหุ่นดีและสุขภาพแข็งแรงด้วย นับว่าเป็นกำไรชีวิตค่ะ"

          กุญแจสู่ความสำเร็จในการสร้างกล้ามเนื้อนั้นง่ายนิดเดียว ขอเพียงใส่ใจออกกำลังกาย และเข้าใจหลักโภชนาการ แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตจิตขอเสนอว่า รูปร่างไม่ใช่สิ่งที่ต้องไขว่คว้าตามกระแส แต่สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงต่างหากคือคำตอบที่คนรักสุขภาพควรมุ่งไปให้ถึงค่ะ
 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ชีวจิต โดย ศิริพร โพธิจักร






สวยแบบมีกล้าม กับประสบการณ์ฟิตหุ่นเป๊ะของ 5 สาวคนดัง Reviewed by Unknown on 11:13 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

All Rights Reserved by HISOSHARE.com © 2014 - 2015
Powered By Blogger, Designed by Sweetheme

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

ขับเคลื่อนโดย Blogger.