หลับอยู่ก็เบิร์นได้ 6 วิธีช่วยไล่ความอ้วนให้ไกล ที่ควรทำก่อนนอน
ลดน้ำหนักให้ถึงใจ ย้ำให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการไดเอตอย่างจริงจัง ต้องไม่ลืมทำ 6 สิ่งนี้ก่อนนอนด้วย
คนที่กำลังไดเอตคงรู้มาบ้างว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำให้รู้สึกหิวอาหารพาอ้วนจะไม่ออกมาป่วนเรา ทว่านอกจากจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว เหล่าคนไดเอตโปรดรู้ไว้เลยว่า 6 สิ่งนี้ก็ควรทำก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายช่วยเบิร์นไขมันและหั่นความอ้วนออกไปได้สะดวกยิ่งขึ้น
1. มื้อเย็นต้องโลว์โซเดียม
Keri Gans นักโภชนาการและเจ้าของพ็อคเก็ตบุ๊คส์ "The Small Change Diet" เตือนไว้ว่า ถ้าเราอิ่มหนำกับดินเนอร์ที่มีโซเดียมสูง เราจะตื่นเช้ามากับความรู้สึกว่าตัวบวม ๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากพุงป่อง ๆ และอาการอืดท้อง ดังนั้นวิธีหลีกเลี่ยงอาการบวมและเป็นการหั่นแคลอรีได้มากขึ้น ดินเนอร์ของเราควรจะเน้นอาหารประเภทผักสด ผลไม้ และอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน รวมทั้งอาหารประเภทต้มและนึ่งแทน
Keri Gans นักโภชนาการและเจ้าของพ็อคเก็ตบุ๊คส์ "The Small Change Diet" เตือนไว้ว่า ถ้าเราอิ่มหนำกับดินเนอร์ที่มีโซเดียมสูง เราจะตื่นเช้ามากับความรู้สึกว่าตัวบวม ๆ โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากพุงป่อง ๆ และอาการอืดท้อง ดังนั้นวิธีหลีกเลี่ยงอาการบวมและเป็นการหั่นแคลอรีได้มากขึ้น ดินเนอร์ของเราควรจะเน้นอาหารประเภทผักสด ผลไม้ และอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน รวมทั้งอาหารประเภทต้มและนึ่งแทน
2. ออกกำลังกายก่อนนอน
ผลการศึกษาจาก National Sleep Foundation เมื่อปี 2013 แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายตอนกลางคืนสามารถทำให้อาสาสมัครราว 56-67% นอนหลับได้ดีขึ้น และไม่ว่าจะออกกำลังกายตอนกี่โมงกี่ยามก็ไม่กระทบกับการนอนหลับอย่างที่เคยเข้าใจกันมา
ฉะนั้นหากเช้าหรือเย็นวันไหนคุณไม่มีเวลาออกกำลังกาย ลองออกกำลังกายช่วงกลางคืนบ้างก็ได้นะคะ
ผลการศึกษาจาก National Sleep Foundation เมื่อปี 2013 แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายตอนกลางคืนสามารถทำให้อาสาสมัครราว 56-67% นอนหลับได้ดีขึ้น และไม่ว่าจะออกกำลังกายตอนกี่โมงกี่ยามก็ไม่กระทบกับการนอนหลับอย่างที่เคยเข้าใจกันมา
ฉะนั้นหากเช้าหรือเย็นวันไหนคุณไม่มีเวลาออกกำลังกาย ลองออกกำลังกายช่วงกลางคืนบ้างก็ได้นะคะ
3. ห้องนอนต้องมืดสนิทที่สุด
ฮอร์โมนเมลาโทนินจะเป็นตัวการสำคัญในการช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่เจ้าเมลาโทนินจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องที่มืดสนิทที่สุด เพราะหากมีแสงเล็ดลอดเข้ามาแม้เพียงเล็กน้อย ฮอร์โมนเมลาโทนินจะตอบสนองต่อแสงด้วยการป่วนให้เราหลับ ๆ ตื่น ๆ จนในที่สุดร่างกายก็ได้รับการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
ฮอร์โมนเมลาโทนินจะเป็นตัวการสำคัญในการช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่เจ้าเมลาโทนินจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องที่มืดสนิทที่สุด เพราะหากมีแสงเล็ดลอดเข้ามาแม้เพียงเล็กน้อย ฮอร์โมนเมลาโทนินจะตอบสนองต่อแสงด้วยการป่วนให้เราหลับ ๆ ตื่น ๆ จนในที่สุดร่างกายก็ได้รับการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
4. นอนหลับพักผ่อนในห้องที่เย็นสบาย
National Institute of Health Clinical Center ทำการศึกษาและพบว่า การนอนหลับในห้องที่มีอุณหภูมิพอเหมาะจะช่วยร่างกายเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นประมาณ 7%
โดยการทดลองได้ให้อาสาสมัครนอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 66 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 17 องศาเซลเซียส) และอีกกลุ่มหนึ่งนอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 75 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 24 องศาเซลเซียส) ซึ่งปรากฎว่า กลุ่มที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่ามีแนวโน้มลดน้ำหนักได้มากขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่นอนในห้องที่ร้อนกว่า
แต่ทั้งนี้อุณหภูมิที่เหมาะสมดังกล่าวอาจเวิร์กกับร่างกายของชาวต่างชาติที่เคยชินกับอากาศหนาวเย็นอยู่แล้ว ส่วนในบ้านเราก็แนะนำให้ปรับอุณหภูมิในห้องนอนในระดับที่ร่างกายรู้สึกสบาย สนับสนุนให้การนอนหลับเป็นไปอย่างราบรื่นก็พอนะคะ
National Institute of Health Clinical Center ทำการศึกษาและพบว่า การนอนหลับในห้องที่มีอุณหภูมิพอเหมาะจะช่วยร่างกายเบิร์นแคลอรีได้มากขึ้นประมาณ 7%
โดยการทดลองได้ให้อาสาสมัครนอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 66 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 17 องศาเซลเซียส) และอีกกลุ่มหนึ่งนอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 75 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 24 องศาเซลเซียส) ซึ่งปรากฎว่า กลุ่มที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่ามีแนวโน้มลดน้ำหนักได้มากขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่นอนในห้องที่ร้อนกว่า
แต่ทั้งนี้อุณหภูมิที่เหมาะสมดังกล่าวอาจเวิร์กกับร่างกายของชาวต่างชาติที่เคยชินกับอากาศหนาวเย็นอยู่แล้ว ส่วนในบ้านเราก็แนะนำให้ปรับอุณหภูมิในห้องนอนในระดับที่ร่างกายรู้สึกสบาย สนับสนุนให้การนอนหลับเป็นไปอย่างราบรื่นก็พอนะคะ
5. เตรียมมื้อกลางวันไปกินเอง
หากมื้อกลางวันของคุณมักจะเป็นอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารจานเดียวซ้ำไปซ้ำมา ต่อไปนี้ขอให้เตรียมมื้อกลางวันไปกินเองดีกว่า โดยเฉพาะกับคนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนับแคลอรี เพราะอาหารนอกบ้านมักจะอุดมไปด้วยแคลอรีประมาณ 2-3 เท่าของปริมาณพลังงานที่ร่างกายเราต้องการต่อมื้อเลยล่ะ
ทว่าหากคุณไม่สามารถเตรียมอาหารกลางวันได้ทันในตอนเช้า เวลาก่อนเข้านอนก็น่าจะเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารมื้อกลางวันที่สุดแล้ว
หากมื้อกลางวันของคุณมักจะเป็นอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารจานเดียวซ้ำไปซ้ำมา ต่อไปนี้ขอให้เตรียมมื้อกลางวันไปกินเองดีกว่า โดยเฉพาะกับคนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนับแคลอรี เพราะอาหารนอกบ้านมักจะอุดมไปด้วยแคลอรีประมาณ 2-3 เท่าของปริมาณพลังงานที่ร่างกายเราต้องการต่อมื้อเลยล่ะ
ทว่าหากคุณไม่สามารถเตรียมอาหารกลางวันได้ทันในตอนเช้า เวลาก่อนเข้านอนก็น่าจะเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารมื้อกลางวันที่สุดแล้ว
6. จิบน้ำตลอดทั้งวัน
ดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนนอนไม่ใช่สิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว เพราะเราอาจต้องลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อยจนนอนไม่พอเอาได้ ดังนั้นนักโภชนาการจึงแนะนำให้ใช้วิธีจิบน้ำบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกหิวน้อยลงแล้ว น้ำยังจะช่วยดีท็อกซ์สารตกค้างต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย
นอกจาก 6 อย่างข้างต้นที่อยากให้ทำแล้ว เวลาอื่น ๆ เราก็ควรใช้ชีวิตตามวิถีสุขภาพดี อย่างการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดของหวาน อาหารทอด และอาหารมันให้ได้ รวมทั้งควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Prevention
Livestrong
ดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนนอนไม่ใช่สิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว เพราะเราอาจต้องลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อยจนนอนไม่พอเอาได้ ดังนั้นนักโภชนาการจึงแนะนำให้ใช้วิธีจิบน้ำบ่อย ๆ ในระหว่างวัน ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกหิวน้อยลงแล้ว น้ำยังจะช่วยดีท็อกซ์สารตกค้างต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย
นอกจาก 6 อย่างข้างต้นที่อยากให้ทำแล้ว เวลาอื่น ๆ เราก็ควรใช้ชีวิตตามวิถีสุขภาพดี อย่างการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดของหวาน อาหารทอด และอาหารมันให้ได้ รวมทั้งควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Prevention
Livestrong
หลับอยู่ก็เบิร์นได้ 6 วิธีช่วยไล่ความอ้วนให้ไกล ที่ควรทำก่อนนอน
Reviewed by Unknown
on
14:09
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: